รายงานพิเศษหนังสือพิมพ์ข่าวสด
รายงานพิเศษ หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 30 กันยายน 2558
ปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุลดูแลจอประสาทตาเสื่อม
อาการจอประสาทตาเสื่อม (Age-Related Macular Degeneration: AMD) พบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นสาเหตุถึงร้อยละ 55 ที่ทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร อาการดังกล่าวเกิดจากการเสื่อมสภาพในส่วนกลางของจอประสาทตาพบได้มากกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น พันธุกรรม พบมากในคนผิวขาว เพศหญิงมากกว่าชาย การสูบบุหรี่ที่ทำให้มีโอกาสเกิดขึ้นเร็วกว่า ผู้ไม่สูบถึง 10 ปี รวมถึงความดันโลหิต และระดับคอเลสเตอรอล ในเลือดสูง
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน ไฟย์โต ซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) ผู้คิดค้นวิธีการสร้างภูมิคุ้มกันให้สมดุลด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ระบุว่า อาการจอประสาทตาเสื่อมแบ่งได้ 2 ประเภท โดยร้อยละ 90 มักพบเป็นจอประสาทตาเสื่อมแบบแห้ง จะมีการเสื่อมสลายมีโปรตีนและไขมัน จับอยู่ที่จุดกลางรับภาพจอประสาทตา จากการเสื่อมตามอายุ ความสามารถในการมองเห็นจะค่อยๆ ลดลง บางรายรุนแรงก็อาจพัฒนาเป็นจอประสาทตาเสื่อมแบบเปียก พบได้ร้อยละ 10-15
อาการจอประสาทตาเสื่อมแบบเปียก เกิดจากที่มีเส้นเลือดผิดปกติงอกอยู่ใต้จอประสาทตาและผนังชั้นอาร์พีอี ซึ่งจะแตกง่ายมาก ทำให้มีการรั่วซึมของเลือดและสารเหลว จนจุดกลางรับภาพของจอประสาทตาบวมและเกิดแผลเป็น ทำให้การมองเห็นภาพตรงกลางบิดเบี้ยว พร่ามัว จนทำให้ตาบอดข้างเดียวหรือสองข้าง โดยคนที่อายุ 40-64 ปีแนะนำให้ตรวจสุขภาพดวงตาทุก 2-4 ปี อายุ 65 ปีขึ้นไปควรตรวจทุก 1-2 ปี
ปัจจุบันการรักษาทำได้แค่ชะลออาการ โดยจอประสาทตาแบบแห้งควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง การรักษาจอประสาทตาแบบเปียกมีหลายวิธี ได้แก่ การฉายแสงเลเซอร์ การผ่าตัด และการฉีดยา โดยนักวิจัยในอังกฤษและอเมริกาพบว่า Interleukin 18 (IL18) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันใช้ฉีดเข้าเส้น เพื่อระงับและหยุดการไหลออกของเลือด จากเส้นเลือดหลังจอประสาทตาเสื่อมป้องกันตาบอดได้
การดูแลสุขภาพและมีภูมิคุ้มกันที่สมดุลจึงเป็นกุญแจสำคัญ ด้วยแนวคิดการปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุลใช้อาหารเป็นยา โดยการวิจัยกว่า 38 ปี เพื่อศึกษาสารองค์ประกอบของมังคุดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ล่าสุดคณะนักวิจัยของบริษัทเอเชี่ยนฯ พบนวัตกรรมชื่อว่า " APCOessence" ที่สกัดเนื้อและเมล็ดมังคุดเพิ่มการหลั่งสารภูมิคุ้มกัน Interleukin 18 (IL18) สามารถถนอมดวงตา ไม่ให้สูญเสียการมองเห็นจากอาการจอประสาทตาเสื่อมชนิดเปียกได้
แม้อาการจอประสาทตาเสื่อมจะไม่มีวิธีป้องกันโดยตรง แต่การดูแลถนอมดวงตาและลดปัจจัยเสี่ยง เช่น งดสูบบุหรี่ เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง สวมแว่นตากันแดดยามออกแดด กินผักและผลไม้ เข้ารับการตรวจตาและจอประสาทตาเป้นระยะ และสังเกตุความผิดปกติในการมองเห็นของดวงตาแต่ละข้าง